การตายสิ่งของชาวผิวดำ จอร์จ ฟลอยด์ (Geoge Floyde) ระหว่างการถูกจับกุมประการโหดโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวในแว่นแคว้นมินนิผอมโซดวงตา อเมริกา ได้มาปลุกกระแสงานค้านกับงานตั้งคำถามเกี่ยวข้อคิดเห็นความร้ายกาจมุขสีผิวแห่งประกอบด้วยมาอย่างยาวนานณสหรัฐ ผ่านแฮชแท็ก #BlackLiveMatters หรือว่า ‘ชีวิตินทรีย์มนุชดำนาก็ประกอบด้วยคุณประโยชน์’ ไปทั่วโลก โดยเฉพาะตอนอาทิตย์ที่ผ่านมา อีฉันได้มาเหลือบเห็นการอุบัติตัวขึ้นไปของงานประท้วงติดตามถนนและทัศนียภาพของกลุ่มคนที่โกรธเคืองแห่งหนนับวันก็ริเริ่มรุนแรงเจริญเรื่อย ๆ เรื่องราวทั้งเพนี้ก็ทำเอาผู้เขียนระลึกถึงสารคดี ‘41 Shots’ ขณะที่ตรีสิ่งของซีรีส์สารคดี Trial by Media ทาง Netflix กล่าวถึงการตายสรรพสิ่งริมผิวดำ อาลงมาดู ดิอากิโล (Amadou Diallo) ชาวกีนีในบุรีนิวยอร์ก ซึ่งไม่ผิดผู้พิทักษ์สันติราษฎร์นิวยอร์กผิวขาว 4 หัวหน้าโหมเหนี่ยวไกใส่ 41 นัด ระหว่างแห่งนกเขาพลังไขกุญแจประตูอพาร์ตเมนต์ของตัวเอง *บทความข้างล่างนี้มีการปริปากจรดเนื้อความประธานของสารคดี* เรื่องราวเริ่มต้นณยามเช้าวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พรรษา 1999 ย่านบถัดจากซ์ นิวยอร์กสิตี้ ขณะที่อาลงมามองดูกำลังจะไขประตูอะนำพาร์ตเมนต์ของเขา และผู้พิทักษ์สันติราษฎร์นิวยอร์ก 4 นายพลังลาดตระเวนอยู่นั้น ตำรวจได้สังเกตเห็นอามาแลดูและตัดสินใจเดินเข้าไปหาเพื่อจะพิจารณา เมื่อนั้นเองที่ลูกกระสุน 41 นัดหมายคว้าถูกเหนี่ยวไกเข้าไปแห่งลำตัวสิ่งของอามาแลดูกับบริเวณโถงทาง ด้วยเหตุที่ตำรวจทบทวนดูดุ อามาแลดูนำมือล้วงกระเป๋าเพื่อจักถือปืนลงมารบตอบ เสียแต่ว่าจริงๆแล้ว นกเขาจักจับกระเป๋าธนบัตรเท่านั้น รูปการณ์การจบชีวิตสิ่งของอาลงมาดูตกเป็นข้อเสนอแนะร้อนเร็ว กลุ่มคนมากมายแตกต่างโกรธแค้นกับดักความประพฤติสิ่งของพนักงานแห่งดูเหมือนจะพวกเขา ‘เลือกเฟ้นทำ’ ด้วยกัน ‘ปฏิบัติการเลยกว่าความอันเนื่องมาจากอคติมุขสีผิวและเชื้อชาครหา’ ความเดือดดาลสรรพสิ่งพวกเขาก็ยิ่งมากขึ้นความรุนแรงขึ้นอีก ครั้นบุคลากรรวมหมดสี่ก็ไม่ได้มีการวางท่าตวาดจักรับผิดชอบหรือรู้สึกผิดดามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไป ทุกเวลาฉิวเฉียวหนึ่งมหุรดีต่อจากนั้น อีฉันจะได้มาเห็นภาพสรรพสิ่งการค้านเพื่อประท้วงและตำหนิความรุนแรงทางสีผิวในนครนิวยอร์ก กับการก่อประกาศสิ่งของสื่อมวลชน ในงานเสนอคำถามกับหลักตัดทอนอาชญากรรมชิ้นหยาบสรรพสิ่ง รูงดงาม้ จูลมนุษยชาติลับิ (Rudy Giuliani) นายกเทศมนตรีเมืองนิวยอร์กคว้าขณะนั้น กล่าวถึงการให้สิทธิแก่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ข้างนอกชุดแต่งกายในการตรวจตราและจับกุมอาชญากรรมที่เกิดบนตัวถนน เอามาสู่การปฏิบัติตนเกินกระทั่งความสิ่งของตำรวจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความคนผิวดำ ซึ่งสื่อมวลชนต่างก็รีบเร่งเข้ามาเล่นข้อคิดเห็นตรงนี้กันจั้กๆ ประกอบด้วยการเฝ้าสืบเสาะรวมหมดชายทะเลเจ้าหน้าที่ตำรวจ รายงานการเคลื่อนที่สรรพสิ่งการค้าน ด้วยกันการสัมภาษณ์เพื่อนบ้านกับคนผิวดำที่คุ้นชินเจอะเจอเหตุการณ์ดังอาลงมามองดูทางโทรทัศน์ ระหว่างตรงนั้นเอง แม่ของอามาดู ค้างดิอาทู ดิอากิโลกรัม (Kadiatou Diallo) คว้าแรมรอนจากกีนีลงมาเพื่อมุ่งหมายความยุติธรรมให้แก่บุตรชาย เจ้าเอ็งปลงใจร่วมการคัดค้านกับดัก เธอบิดาอัล ชาร์ปหนึ่งพันกิโลกรัม (Reverend Al Shapton) แกนนำการเคลื่อนไหวทางสังคมณข้อคิดความรุนแรงทางสีผิว ซึ่งสารคดีจักนำอิฉันเข้าอยู่ในขบวนการต่อสู้ของเขาทั้งหลาย เพราะอรรถบทสำคัญแห่งการค้าน คือว่า ให้มีงานฟ้องร้องอาญากับดักเจ้าหน้าที่ สำรวจแนวนโยบายสิ่งแรงของรูบริสุทธ์้ ด้วยกันมุ่งหมายความเสมอภาคสิ่งของคน ซึ่งการเคลื่อนไหวสรรพสิ่ง คาดิอาทู ด้วยกันเธอบิดาอัล ชาร์ปตัน เองก็กลับเป็นดำรงฐานะบทละครชิ้นเป็นหนึ่งสรรพสิ่งสื่อมวลชนและกลางเมืองสาธารณะแห่งหนหิวกระหายเรื่องราวที่เต็มไปด้วยดราม่านี้ ฉันจึงได้เห็นการนำรายงานประกาศข้อคิดเห็นดังกล่าวจวนจะทุกเวลา สถานการณ์ระหว่างผู้ประท้วงด้วยกันรัฐบาลเริ่มวุ่นวายใจ ริเริ่มประกอบด้วยการจับกุมผู้เข้าร่วมคัดค้านแห่งสร้างข้อเสียหายแห่งหนรัฐ ข้างหลังความโกรธของฝ่ายกลางเมืองกับผู้ประท้วงเริ่มถูกปลุกใจ เช่นกันงานพาดหัวเรื่องสิ่งของสื่อมวลชนแห่งหนเต็มไปด้วยจิตใจ เป็นต้นว่า “เอาชีวิตชายไม่มีอาวุธชนิดโลหิตตอนเย็น” และ “ลั่นไก 41 นัด” จวบจนกระทั่งวันที่ 25 เดือนมีนาคม 1999 ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ 4 นายก็ถูกจับตัวไปตัดสินคดีอธิกรณ์การฆ่าฟัน กับคงถูกลงโทษติดคุกตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม เรื่องราวกลับกัน ครั้นทนายความก้ำผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ 4 นายกริ่งเกรงแหว ลูกความสรรพสิ่งเขาทั้งหลายจักไม่ได้สารภาพความเป็นธรรมจากการไต่สวนที่นครนิวยอร์ก ด้วยเหตุที่มีแรงกดดันเยอะแยะสิ่งของมหาชนที่แค้นเคืองกับการนำทูลข่าวสารที่เอนเอี่ยนจรมุขชายหาดผู้เสียชีวิต การพินิจพิเคราะห์คดีจึงไม่ผิดขนไปสอบสวนแห่งหน อัลเลขหมายนี (Alberny) เมืองแห่งหนประกอบด้วยความอนุรักษนิยมมากกว่ารับช่วง แน่นอนตวาด การขนย้ายแห่งหนสอบสวนความผิดพลาดสิ่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวออกจากเนื้อที่ที่ข้อคิดปัญหาความร้ายแรงทางสีผิวหนักหน่วงเต็มที่แห่งเอ็ดณสหรัฐ ณ ในตอนนั้น จรในเนื้อที่ที่ประชาชนส่วนใหญ่ดำรงฐานะชาวผิวขาว ตกเป็นเชื้อไฟแห่งหักโหมความโกรธแยกออกเพิ่มพูนความร้ายแรงยิ่งขึ้น ณสุดท้ายนี้ สารคดีก็นำผู้แต่งเข้านั่งตรวจฟังคำวินิจฉัยพร้อมด้วยแม่สิ่งของอาลงมาแลดูแห่งนฤปเวศม์บุรีอัลเบอร์นี ด้วยกันนำพาผู้แต่งดิ่งไปกับดักความรู้สึกผิดมุ่งหมายหนักหน่วงเมื่อ ราชสำนักสืบสวนตวาด ตำรวจผิวขาวทั้ง 4 อธิปนั้น “ปราศจากความผิด” ทูลคว้าดุ สารคดีนี้สมรรถทำเอาผู้เขียนแจ้งความแค้นกับโจทย์ความร้ายกาจทางสีผิวณสหรัฐได้มาชัดแจ๋วเจริญ ผ่านรูปการณ์แห่งหนอาจจะเรียกคว้าตวาด เป็นเลิศแห่งโศกนาฏกรรมสาเหตุจากอคติทางเผ่าพันธุ์กับสีผิวแห่งน่าสลดหดหู่ใจสุดโต่ง อย่างไรก็ตาม ตอนท้ายของสารคดี ก็ฉายแสงปันออกเห็นภาพสรรพสิ่ง ค้างดิอาทู ชนนีของอามาแลดู แห่งยังคงเอ่ยปากอย่างมีความหวังดุ คุณขอบคุณทั้งหมดแห่งหนต่อสู้เพื่อจะความยุติธรรมสิ่งของบุตรชายและหยัดยืนณความเท่าเทียมสรรพสิ่งชีวิตินทรีย์แนบข้างกับดักคุณโดยตลอด กับคุณจักยังคงหยัดยืนที่จะกล่าวถึงโจทย์ความรุนแรงทางสีผิว งานทอดเผ่าพันธุ์ ด้วยกันการเลือกทำเรื่อยไป ก็เพราะว่าเธอหลงเชื่อดุ นี่คือว่ากิจการสิ่งของเธอแห่งหนสนับสนุนปันออกเข้าสังคมคว้าตระหนักถึงโจทย์เหล่านี้อย่างจริงจังเสียท่า หลังจากมันได้มาพรูชีวิตินทรีย์บุตรชายสรรพสิ่งคุณจรชั่วกัลปาวสาน ด้วยกันพรูชีวิตินทรีย์สิ่งของคนอื่น ๆ รวมถึง จอร์จ ฟลอยลิ่วด์ อีกด้วยด้วย ทาง ‘Black Lives Matter’ ที่พละร้อนแรงไปทั่วโลกณเวลานี้ สะท้อนแยกออกดุ เขาทั้งหลายจักเปล่าทรหดอดทนทาบความอยุติธรรมด้วยกันความร้ายแรงทางเผ่าพันธุ์ ด้วยกันเขาทั้งหลายจักไม่รีรอที่จะส่งเสียงและส่งต่อกิจจาที่เขาทั้งหลายเคยพบแยกออกสังคมรับทราบอีกต่อไป เพราะว่างานคัดค้านในคราวนี้ โซเชียลมีเดียแปรไปมาเป็นเครื่องใช้ไม้สอยหลักแห่งการเคลื่อนไหว ซึ่งทำเอาทั้งหมดสมรรถสลักข้อความเปลี่ยนความเห็นสิ่งของตนเองได้มาประการไท ทั้งหมดจึ่งตกเป็น ‘กระบอกเสียง’ สิ่งของตัวเองโดยงอกงาม ด้วยกันทำเอาการเคลื่อนไหวโอกาสนี้ ถูกขับเคลื่อนด้วยความแค้นแห่งสั่งสมลงมาตรงเวลาจำเนียร เสียแต่ว่าจุดเด่นอีกข้อเสนอแนะแห่งหนสารคดีนี้ฉายแยกออกฉันเห็น คือว่า ความขัดแย้งระหว่างผลวินิจฉัยสรรพสิ่งนฤปเวศม์กับความคาดหมายของกลางเมือง ครั้นตอนท้าย ระเบียบเที่ยงธรรมเปล่าอาจจะดำรงฐานะที่ปรึกษาคว้าแห่งสายตาสรรพสิ่งประชาชน เพราะราชสำนักเปล่าอาจจะวินิจฉัยออกผลออกมาติดสอยห้อยตามทรรศนะสิ่งของมนุชหมู่ยิ่งนัก ข้อคิดเห็นนี้จึ่งตกเป็นความที่จำเป็นต้องชวนโต้เถียงกันดาม ทั่วแห่งข้อคิดเห็นการใช้ความรู้สึกเป็นหลักใหญ่ และงานทำตัวของศาลแห่งหนเกี่ยวพันกับดักการพิจารณาคดีแห่งมีสิทธิ์ความเอาใจใส่ขนมจากสื่อมวลชน ทูลได้มาดุ สารคดีตรงนี้สามารถทำเอาผู้แต่งแจ้งความแค้นกับโจทย์ความร้ายกาจมุขสีผิวในสหรัฐได้ชัดแจ๋วงอกงาม เปลี่ยนเหตุการณ์แห่งอาจจะเรียกหาได้มาแหว เป็นหนึ่งแห่งเรื่องเศร้าสาเหตุจากอคติทางเชื้อชาติด้วยกันสีผิวแห่งน่าหดหู่ใจเต็มที่ กับชวนปันออกผู้เขียนได้มากลับมาตรวจทานบทบาทสรรพสิ่งกระบวนการยุติธรรมและสื่อมวลชนแห่งยุคปัจจุบัน บทความอื่นที่เจ้าเอ็งคงยั่ว เมื่อป๊อปคัลเผชิญร์ประเทศเกาหลีบุกเข้าไปประเทศสหรัฐอเมริกา – งานตะเวนของคลื่นขนมธรรมเนียมสู่พื้นโลกทิศตะวันตกชวนดู 5 สารคดีดีไซน์ฟรีขนมจาก Gary Hustwit ผู้สรรค์สารคดี Helvetica สิ่งมีชื่อ5 กำหนดการพาสัญจรรอบแหล่งหล้าขนาดที่คุณจะ Stayhome สิงสู่ก็ตาม กรณี : Creative Talk